เพียงแค่ผสม CLEAR PINK ก็ได้สีออกมาสวยเท่ากันจรดปลายเลย ที่ผ่านมาเวลา จะทำสีชมพูอ่อนๆ ค่อนข้างลำบากในการจะทำให้สีช่วงโคนกับช่วงปลายเสมอกัน ถ้าเอา CLEAR ผสมกับสีชมพูเลย ช่วงปลายมักจะไม่กินสี หรือสีเฟดออกเลยแทบจะ ทันที แต่ถ้าใช้ CLEAR PINK ต่อให้ใช้สูตรเดียวกันทั้งโคนและปลายก็ได้สีออกมา สวยและเสมอเท่ากันพวกสีโทนอ่อนสว่างที่เมื่อก่อนทำยากๆ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องผสม ยุ่งยากก็สามารถทำออกมาได้เลย

CLEAR PINK ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น "CLEAR ที่ทำให้สียิ่งดูรับกับสีผิว" ใช้แทน CLEAR เวลาต้องการทำสีโทนสว่างๆ ที่ผ่านมาปกติใช้สีชมพู ผสมกับ CLEAR เพียงแค่ อัตราส่วนต่างกันนิดหน่อย แต่สีผลลัพธ์กลับต่างกันไปคนละเรื่องเลย บางทีสีผลลัพธ์ ก็ไม่ออกมาตามที่คิดไว้ด้วย ด้วยความที่ใน CLEAR PINK มีสีชมพูอ่อนๆผสมอยู่แล้ว จึงสามารถปรับสี แม้จะเล็กๆน้อยๆได้ ทำให้ทำสีละมุน นุ่มๆ ออกมาได้หลากหลาย มากกว่าเดิม พวกสีไฮโทนแนวนี้ถ้าทำแล้วสีไม่เสมอกัน จะเห็นความด่างได้ชัดเจนมาก ปัจจุบันที่สีไฮโทนกำลังบูม ลูกค้าก็ต้องการให้สีที่ทำออกมามีคุณภาพตามที่คาดหวัง CLEAR PINK เลยมีประโยชน์มาก เพราะนอกจากจะทำสีละมุนได้แล้วยังสามารถใช้ ปรับสีในงานที่ต้องการความละเอียดมากๆอีกด้วย

ใช้ CLEAR ASH และ CLEAR PINK แทน CLEAR ในการปรับสีที่ละเอียดอ่อน ที่ผ่านมาเวลา ต้องการปรับสี จะต้องใช้สีผสมกัน 3~4 สี ในกรณีทำสีไฮโทนหรือสีอ่อนสว่าง อัตราส่วนต่างกันแค่เพียงนิดหน่อย ก็ส่งผลให้ผลลัพธ์ออกมาต่างกันเลย รู้สึกกังวล เพราะไม่รู้จะต้องบอกผู้ช่วยหรือสต๊าฟให้ผสมสีให้ยังไง เวลาอยากปรับสูตรสี ที่ค่อนข้างละเอียด แต่ถ้าใช้ CLEAR ASH และ CLEAR PINK สามารถใช้ผสมเพื่อทำ สีไฮโทนได้ด้วยสูตรที่ไม่ยุ่งยาก และปรับสูตรตามระดับความเสียของเส้นผม ได้ด้วยการป้ายครั้งเดียวจบเลย เหมาะกับร้านซาลอนที่ยุ่งๆ เพราะสามารถรักษา คุณภาพเดียวกันได้ แม้ทำงานร่วมกันกับพนักงานคนอื่นๆ

หากต้องการกดสีพื้นผมเหลือง ก็ใช้ CLEAR ASH และ CLEAR PINK ผสมกันเลย ง่ายและสะดวกมาก ไม่จำเป็นต้องปรับอะไรยุ่งยาก อย่างเอาสีม่วง มาผสม CLEAR เพื่อเจือจาง แล้วเอาสีหลักผสมลงไปอีก เพียงแค่ประยุกต์ใช้ 2 สีแบบง่ายๆ เช่น ใช้ NATURAL ผสมกับ CLEAR PINK ทำสีโทนเบจ, หากต้องการให้ออกขาว ก็ใช้ CLEAR ASH ผสมกับ CLEAR PINK อัตราส่วน 1:1 หรือหากต้องการทำสีแนวซิลเวอร์ ก็ใช้ CLEAR ASH เพิ่มความหลากหลายได้ทั้งสีโทนเย็นและโทนร้อน สิ่งที่ทำให้ชอบ CLEAR ASH และ CLEAR PINK อีกอย่างคือ มีเม็ดสีอ่อนๆผสมอยู่แล้ว เวลาทำออกมาสีผลลัพธ์ จึงดูละมุน มากกว่าการใช้สีน้ำเงินหรือชมพูมาเจือจางด้วย CLEAR

การทำกราเดชั่น ไม่ใช่แค่ว่าเอาสีมาผสม CLEAR ให้เจือจางเพื่อไล่สี สำคัญคือจะต้อง เพิ่มความอ่อน-เข้มลงไปในสีเดียวกันนั้นๆ CLEAR ASH และ CLEAR PINK จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ว่าใช้เพียงเพื่อเป็นตัวกดพื้นผม แต่คิดว่าเป็นสีที่ จำเป็นสำหรับพัฒนาขอบเขตของการดีไซด์สีผมเลย สี ASIAN COLOR FES สามารถทำออกมาได้ประกายสีที่ชัดเพียงพออยู่แล้ว ยิ่งนำ CLEAR ASH หรือ CLEAR PINK มาผสม ยิ่งทำให้สามารถคอนโทรลสีได้อย่างอิสระ แค่มี 2 สีนี้ติดไว้ ไม่ว่าจะเป็นโทนร้อนหรือโทนเย็น ก็สามารถทำออกมาได้ตามต้องการ

จิตวิญญาณที่ "อย่าลืมความขี้เล่นในตัวเอง" ไม่ว่าจะเป็นสีแบรนด์อะไร ช่างทำผมควรมีความสนุกไปกับการ "เล่น" กับสี ยกตัวอย่างเช่น สีชมพู สีชมพูของ แต่ละคนไม่เหมือนกัน หากทำออกมาเป็นแค่สีชมพูที่สวย ก็ไม่ต่างกับที่ช่างทำผม คนอื่นๆ ทำได้ สิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง สิ่งที่คุณเป็นคนปรับเปลี่ยน แล้วแสดงออกถึงความเป็นตัวคุณเองได้ ก็คือสูตรสี และเพื่อเพิ่มขอบเขตในการ สร้างสรรค์สูตรสี CLEAR ASH และ CLEAR PINK เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยการสร้างสีที่หลากหลายโดยอาศัยจุดเด่นของสีย้อมผมที่ใช้ในที่สุดแล้วจะส่งผลให้คุณมีพัฒนาการในเรื่องสีต่อไปได้